ฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว หลายๆบ้านเริ่มมองหาเครื่องทำน้ำอุ่นสักเครื่อง เพื่อเอาไว้อำนวยความสะดวกในการอาบน้ำอุ่นในช่วงหน้าหนาวนี้ ซึ่งการเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งไว้ที่บ้านนั้นไม่ใช่ว่าจะเลือกเครื่องไหนก็ได้ตามที่ตนพอใจ แต่ต้องมีขั้นตอนในการพิจารณาหลายอย่าง เพื่อให้ได้เครื่องทำน้ำอุ่นที่ตรงกับความต้องการใช้งานให้มากที่สุด
1.ความต้องการในการใช้งาน
ก่อนจะซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งที่บ้าน ก็ต้องสำรวจคนในครอบครัวก่อนว่าจะมีสมาชิกภายในบ้านใช้กันกี่คน หากเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีสมาชิกประมาณ 2 – 3 คน ก็ให้เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นประมาณครึ่งลิตร แต่หากเป็นครอบครัวใหญ่และมีการใช้งานบ่อยก็ให้เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 1 ลิตรขึ้นไป เพื่อให้ทำน้ำอุ่นได้ทัน และระบบทำความร้อนไม่ถูกใช้งานมากเกินไป
2.ชนิดของเครื่องทำน้ำอุ่น
เครื่องทำน้ำอุ่นในท้องตลาด ณ ปัจจุบันนี้ มีให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแต่ละประเภทจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาด้วย
- ระบบแบบผ่านความร้อน เป็นระบบที่ให้น้ำผ่านเข้าในเครื่อง แล้วจะไหลผ่านท่อทองแดง หรือขดลวดที่มีความร้อน ข้อดีของการใช้ระบบแบบนี้จะทำให้น้ำร้อนเร็ว ไม่มีปัญหาของการรั่วซึมของท่อ แต่อุณหภูมิของน้ำจะไม่คงที่ และหากใช้ไปนานๆ ท่อทองแดงสามารถอุดตันได้และไม่สามารถถอดทำความสะอาดได้
- ระบบแบบหม้อต้มทองแดง เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีทองแดงรูปทรงกระบอกอยู่ภายในเครื่อง ทำให้น้ำร้อนเร็วทันใจ แถมความร้อนยังคงที่ ตัวเครื่องสามารถทนความร้อนได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ราคาค่อนข้างสูง ข้อเสียคือ ใช้ไปนานๆตัวหม้ออาจจะเกิดการรั่วซึมหรืออุดตันได้ และไม่สามารถถอดทำความสะอาดได้
- ระบบแบบหม้อต้มพลาสติก เครื่องทำน้ำอุ่นประเภทนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด ไม่มีปัญหาในการรั่วซึม แถมยังช่วยลดการอุดตันของท่อ สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ที่สำคัญมีราคาถูก แต่ต้องใช้เวลาในการทำความร้อน และอายุการใช้งานไม่คงทน
3.เลือกกำลังไฟที่เหมาะกับการใช้งาน
เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่กินไฟค่อนข้างมาก แต่หากเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีฉลากเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดไฟไปได้มากทีเดียว สำหรับการเลือกกำลังไฟของเครื่องทำน้ำอุ่นก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน เพราะแต่ละพื้นที่อุณหภูมิมักไม่เท่ากัน เช่น พื้นที่ในกรุงเทพ และปริมณฑล มีสภาพอากาศที่ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ค่อนไปทางร้อนถึงร้อนมาก ก็เลือกใช้เครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 3,500 วัตต์ก็เพียงพอแล้ว, ส่วนพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นอยู่บ่อยๆ การเลือกกำลังไฟของเครื่องทำน้ำอุ่นให้เลือกกำลังไฟ 4,500 วัตต์ และพื้นที่บนภูเขาที่มีอากาศหนาวเย็นมากๆ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องทำน้ำอุ่น 6,000 วัตต์
4.ตรวจสอบสายดินและเบรกเกอร์
สายดินที่ถูกต้องควรเดินสายรวมกับสายดินหลัก ซึ่งต่อลงดินที่เมนเบรกเกอร์ของบ้าน แต่ถ้าไม่มีอาจจะต่อสายดินเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่น โดยพยายามหาที่ต่อลงดินให้ลึกพอ ควรแยกเบรกเกอร์โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และควรเป็นเบรกเกอร์ที่มีระบบป้องกันไฟรั่วลงดิน
5.ความปลอดภัย
เมื่อพิจารณาเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นตามข้อข้างต้นได้แล้ว ต่อมาก็ควรดูเรื่องความปลอดภัย โดยพิจารณาความปลอดภัย ดังนี้
- ระบบป้องกันไฟดูด ให้เลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติหากไฟฟ้ารั่ว หากไม่มีระบบป้องกันไฟดูดติดตั้งในตัวเครื่อง อย่างน้อยฝาหลังของเครื่องที่ยึดติดกับฝาผนังควรเป็นโลหะ เพื่อให้ไฟรั่วลงดินผ่านทางฝาหลังไปยังน็อตสกรูที่ยึดติดกับปูนฝาผนัง
- มีสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิสำหรับตัดไฟ เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีความปลอดภัยดีควรจะมีสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิด้วย เพราะสวิตช์จะทำหน้าที่ตัดไฟเมื่อน้ำร้อนได้ที่ หากไม่มีสวิตช์จะต้องคอยระวัง เพราะหากเผลอเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นทิ้งไว้อาจทำให้ไฟไหม้ได้
- สวิตซ์ควบคุมแรงดันน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่นที่ได้มาตรฐานต้องออกแบบให้สวิตช์ควบคุมแรงดันน้ำอยู่ในใต้หม้อต้มน้ำร้อนแบบเยื้องๆ ไม่ใช่ข้างใต้ เพราะหากหม้อต้มน้ำร้อนเกิดรั่ว น้ำต้องไม่หยดลงบนสวิตช์ และตัวสวิตช์จะต้องมีวัสดุกันน้ำชนิดคลุมมิดชิด ไม่ควรปล่อยให้เปลือยเปล่า ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ไฟดูดได้
- ระบบวัดอัตราการไหลของน้ำ เป็นตัวช่วยตัดการทำงานอัตโนมัติ ถ้าน้ำไหลน้อยมาก หรือไม่มีน้ำไหลเข้าตัวเครื่อง เพราะถ้าน้ำไหลเข้าน้อยมากกว่าที่กำหนดจะสร้างความเสียหายกับหม้อต้ม และตัวทำความร้อนได้
- การออกแบบ และติดตั้งอุปกรณ์ภายในเครื่อง ตัววัสดุของเครื่องทำน้ำอุ่นต้องใช้ของที่มีคุณภาพ และทนความร้อนสูง เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ในภายหลัง
6.การรับประกัน และบริการหลังการขาย
การรับประกัน และบริการหลังการขายก็สำคัญเช่นกัน การซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นต้องซื้อกับร้านค้าที่ไว้ใจได้ มีความซื่อสัตย์ มีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในสินค้ามาให้ข้อมูลกับผู้ซื้อ ตัวทำความร้อนและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆในเครื่องทำน้ำอุ่นต้องมีการรับประกันสินค้าอย่างน้อย 1 ปี ตัวหม้อต้มที่ได้คุณภาพและปลอดภัยควรเลือกที่มีการรับประกันอย่างน้อย 5 ปี
