สงสัยไหมทำไมเบอร์บนน๊อตกับขนาดประแจที่ใช้ถึงไม่ตรงกัน

การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับงานซ่อมแซม การก่อสร้าง หรืองานอุตสาหกรรมต่างๆ หนึ่งในเครื่องมือที่หลายคนใช้งานอยู่เป็นประจำคือ “ประแจ” แต่แม้จะเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ดูเหมือนง่ายต่อการใช้งาน ความซับซ้อนของขนาดประแจและขนาดน็อตกลับสร้างความสับสนให้กับช่างหลายคนจนอาจเกิดการหยิบผิดขึ้นมาได้ บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจถึงระบบการวัดขนาดประแจและความหมายของตัวอักษร M ในขนาดของน็อตหรือโบลต์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกใช้งานเครื่องมือได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยเพราะการใช้ผิดบ่อยๆก็ไม่ค่อยดีต่อชิ้นงานนัก

ขนาดประแจและความหมายที่แท้จริง

หลายคนมักสงสัยว่า ทำไมขนาดของประแจถึงไม่สอดคล้องกับตัวเลข M ที่มักปรากฏบนขนาดน็อตหรือโบลต์ ระบบการกำหนดขนาดของประแจอ้างอิงตาม “ขนาดของระยะห่างระหว่างปากประแจ” ซึ่งเรียกว่า “ขนาดหัวน็อต/โบลต์” หรือ “Across Flats (AF)” ขนาดนี้จะถูกวัดเป็นหน่วยมิลลิเมตร (ระบบเมตริก) หรือหน่วยนิ้ว (ระบบอิมพีเรียล) โดยระยะห่างนี้คือขนาดของหัวน็อตที่ประแจต้องครอบลงไป เพื่อขันหรือคลายออกจากที่ยึด

สงสัยไหมทำไมเบอร์บนน๊อตกับขนาดประแจที่ใช้ถึงไม่ตรงกัน

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีน็อตขนาด M10 คุณอาจคิดว่าประแจที่ควรใช้คือขนาด 10 มิลลิเมตร แต่ในความเป็นจริง ขนาดของหัวน็อตนั้นจะต้องใช้ประแจขนาด 17 มิลลิเมตร ในการขัน ดังนั้น ขนาด 17 มิลลิเมตรที่ระบุบนประแจนั้นไม่ใช่ขนาดของเกลียว แต่เป็นขนาดของหัวน็อต

ขนาดน็อตกับขนาดเกลียว

คำว่า “M” ที่ใช้ในน็อตหรือโบลต์ เช่น M10 หรือ M12 หมายถึง “เส้นผ่านศูนย์กลางของเกลียว” ซึ่งเป็นขนาดของเกลียวไม่ใช่ขนาดของหัวน็อต ยกตัวอย่างเช่น น็อต M10 หมายความว่าขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของเกลียวคือ 10 มิลลิเมตร แต่ขนาดหัวของน็อตจะใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเกลียว และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมประแจขนาด 17 มิลลิเมตรจึงต้องใช้กับน็อต M10

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ ขนาดของประแจไม่ได้บอกถึงความหนาของเกลียว แต่เป็นขนาดที่เหมาะสมกับหัวน็อตเท่านั้น ดังนั้น การเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างขนาดเกลียวกับขนาดหัวน็อตเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ประแจได้อย่างถูกต้องและป้องกันการหยิบผิดในครั้งต่อไป

ตารางความสัมพันธ์ระหว่างขนาดน็อตกับประแจ

เส้นผ่านศูนย์กลางโบลต์ขนาดประแจ & ซ็อกเก็ตขนาดหกเหลี่ยม
M35.52.5
M473
M584
M6105
M711
M8136
M10178
M121910
M142212
M162414
M182714
M203017
M223217
M243619
M274119
M304622

หมายเหตุ: “ขนาดหกเหลี่ยม” คือขนาดของซ็อกเก็ตหกเหลี่ยมสำหรับโบลต์ในหน่วยมิลลิเมตร

ตารางนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของน็อตในหน่วยเมตริกที่นิยมใช้และขนาดของประแจที่เหมาะสม ขนาดประแจที่แสดงในตารางนี้อ้างอิงจากขนาดของหัวน็อต ไม่ใช่ขนาดของเกลียว

ประเภทของระบบขนาดประแจทั้งสองแบบ

ระบบการวัดขนาดประแจสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระบบหลัก คือ ระบบเมตริก และระบบอิมพีเรียล ซึ่งแต่ละระบบมีลักษณะการวัดที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.ระบบเมตริก 

ระบบเมตริกใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตรในการวัดขนาดประแจ ขนาดที่นิยมใช้ในระบบนี้ ได้แก่ 8 มม., 10 มม., 12 มม., 14 มม., 17 มม., 19 มม. เป็นต้น ซึ่งระบบนี้ถูกใช้ในยุโรปและเอเชียเป็นหลัก โดยขนาด M ของน็อตในระบบเมตริกยังมีการแบ่งแยกตามระยะห่างของเกลียวด้วย เช่น M10x1.25 หมายถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกลียว 10 มม. และระยะห่างระหว่างเกลียว 1.25 มม.

2.ระบบอิมพีเรียล 

ระบบนี้ใช้หน่วยเป็นนิ้วในการวัดขนาดของประแจและหัวน็อต โดยมักใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา ขนาดที่นิยมใช้ในระบบนี้ได้แก่ 1/4 นิ้ว, 3/8 นิ้ว, 1/2 นิ้ว และ 9/16 นิ้ว ขนาดนี้อาจสร้างความสับสนให้กับช่างที่คุ้นเคยกับระบบเมตริก แต่ความเข้าใจในระบบอิมพีเรียลก็สำคัญเช่นกันในบางงานที่ต้องการมาตรฐานจากสหรัฐฯ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากอเมริกา

ปัญหาที่เกิดจากการใช้ขนาดประแจที่ไม่เหมาะสม

การใช้ประแจที่มีขนาดไม่ตรงกับหัวน็อตอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ เช่น หัวน็อตที่ได้รับแรงมากเกินไปอาจหลุดหรือเกิดการเสียหายจนไม่สามารถใช้งานต่อได้ อีกทั้งการเลือกขนาดประแจที่ใหญ่เกินไปจะทำให้ประแจหลุดออกจากน็อตบ่อยครั้งและอาจทำให้น็อตชำรุดได้ นอกจากนี้ การใช้ประแจที่เล็กเกินไปจะทำให้ขันน็อตไม่แน่นหนาเท่าที่ควร ส่งผลต่อความปลอดภัยของการใช้งาน

วิธีการเลือกประแจให้เหมาะสมกับงาน

1.ตรวจสอบขนาดของน็อตหรือโบลต์ก่อนเสมอ 

ข้อแรกที่ช่างควรทำคือการวัดขนาดของน็อตหรือโบลต์ที่ต้องการขันหรือคลาย โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เวอร์เนียร์ เพื่อให้ได้ขนาดที่ถูกต้อง หลังจากนั้นจึงเลือกประแจที่มีขนาดพอดีกับหัวน็อตที่วัดได้ การทำเช่นนี้จะช่วยลดปัญหาการหยิบประแจผิดขนาด และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับน็อต

2.ทำความเข้าใจกับระบบการวัดขนาด 

การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบเมตริกและอิมพีเรียลเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อคุณทำงานกับเครื่องมือและอุปกรณ์จากต่างประเทศ ช่างที่คุ้นเคยกับการใช้งานเครื่องมือควรมีประแจทั้งสองระบบติดตัวไว้เพื่อความสะดวกและไม่ต้องคอยเปลี่ยนเครื่องมือเมื่อต้องทำงานกับน็อตในระบบต่างกัน

3.ใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ 

คุณภาพของเครื่องมือส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของงาน หากคุณเลือกใช้ประแจที่มีคุณภาพต่ำ มันอาจบิดเบี้ยวหรือเกิดความเสียหายเมื่อใช้งานกับน็อตที่แน่นหนา ดังนั้น ควรลงทุนซื้อเครื่องมือที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้ได้ยาวนานและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่คุณกำลังทำงานด้วย

สงสัยไหมทำไมเบอร์บนน๊อตกับขนาดประแจที่ใช้ถึงไม่ตรงกัน

ข้อแนะนำในการเลือกซื้อประแจ

การเลือกซื้อประแจเป็นสิ่งที่ช่างทุกคนควรให้ความสำคัญ เนื่องจากเครื่องมือเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นในการทำงาน และการเลือกประแจที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้น นี่คือคำแนะนำเบื้องต้นในการเลือกซื้อประแจ

1.เลือกประแจที่มีการเคลือบป้องกันสนิม 

เนื่องจากประแจจะต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่เปียกชื้นบ้างในบางครั้ง การเลือกซื้อประแจที่มีการเคลือบสารป้องกันสนิมจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมสภาพของเครื่องมือในระยะยาว

2.เลือกประแจที่มีหัวปรับองศา 

ประแจบางรุ่นสามารถปรับองศาการหมุนได้ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในพื้นที่ที่เข้าถึงยากเป็นไปได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องขันน็อตในที่แคบ

3.เลือกประแจที่มีด้ามจับกระชับมือ 

ด้ามจับของประแจมีผลต่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ควรเลือกประแจที่มีด้ามจับที่กระชับและไม่ลื่น เพื่อให้สามารถควบคุมแรงบิดได้อย่างมั่นคง

สรุปความสำคัญของการเลือกประแจ

การเลือกใช้ขนาดประแจที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการทำลายอุปกรณ์หรือเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ดังนั้นช่างควรเรียนรู้และฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญในการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับงาน

——————————–

APN HARDWARE

ผู้ให้บริการรับผลิต และ จำหน่าย สกรูน็อต น๊อตสแตนเลส น็อตหัวกลมคอเหลี่ยม และ น๊อตเสาไฟฟ้าน๊อตต่อเรือ น๊อตหัวเหลี่ยม SUS304 น๊อตป้ายจราจร เหล็กเพลท สลิงสแตนเลส สตัด น๊อตสแตนเลสอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ หลากหลาย

ช่องทางติดต่อ 

ที่อยู่ 80 หมู่2 ถ.บางนาตราด ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
เบอร์ติดต่อ 085-082-8888 , 084-603-7778
อีเมล apnhardware@gmail.com

Scroll to Top