เหล็กคุณภาพดี ดูตรงไหน ที่จะไม่ให้ถูกหลอก !

ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร ล้วนต้องมีป้ายฉลากบอกรายละเอียดกำกับไว้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่เหล็ก ที่หามีการผลิตขึ้นมาแล้วก็ต้องมีรายละเอียดกำกับด้วยเช่นกัน โดยผู้ผลิตจะต้องติดเอกสารบอกรายละเอียดที่สำคัญไว้ได้แก่

  1. บริษัทผู้ผลิต ประเภทสินค้า (Type)
  2. ชั้นคุณภาพ (Grade)
  3. ขนาด(Size)
  4. ความยาว (Length)
  5. วันเวลาที่ผลิต (Date/Time)
  6. เครื่องหมายมอก

แต่หากคุณไม่เห็นเอกสารบอกรายละเอียด ก็สามารถสังเกตได้บนเนื้อเหล็ก โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

ชื่อผู้ผลิตหรือตรายี่ห้อต่างๆ

  • ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง เช่น RB9 DB16 DB20
  • ชั้นมาตรฐานของเหล็กนั้นๆ เช่น SR24 SD40 SD50

หากมีข้อมูลครบถ้วนตามที่กล่าวมาข้างต้น คุณก็สบายใจได้เลยว่าเหล็กที่คุณซื้อมานั้น มีความแข็งแรงสูง สามารถนำไปสร้างหรือนำไปใช้ได้แบบสบายหายห่วง และสำหรับใครที่เคยได้ยินคำบอกเล่าที่ว่า ‘เวลาเลือกเหล็กสร้างบ้านให้ใช้เหล็กเต็ม’

แล้ว “เหล็กเต็ม” คืออะไร ?

เหล็กเต็มก็คือเหล็กที่มีขนาดและน้ำหนักถูกต้องตาม มาตรฐาน มอก. สำหรับเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. บางครั้งก็อาจเรียกกันว่า ‘เหล็กเบา’ หรือ เหล็กไม่เต็ม’ ดังนั้นการตรวจสอบคุณภาพเหล็กให้เบื้องต้นก็ให้สังเกตหาเครื่องหมาย มอก. ก็จะทำให้เราสามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าเหล็กที่เราเลือกใช้เป็นเหล็กที่ดีและมีคุณภาพได้มาตรฐาน

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top