เกลียวปล่อยสแตนเลส คือการเป็นตัวเชื่อมให้วัสดุทั้งสองยึดติด ให้สนิทกันอย่างแน่นหนา และไม่ให้หลุดออกจากกัน และผู้คนบางส่วนไม่ว่าจะเป็นช่างหรือบุคคลทั่วไป ก็คงจะเคยได้ใช้กันบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะมีการใช้งานที่ผิดๆไปบ้าง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ได้งานตามที่ต้องการ หรือยึดติดไม่สนิทกันเท่าไหร่ ดังนั้นการเจาะหรือใช้สกูรต้องมีเทคนิคในการใช้ และยังมีการเข้าผิดในการใช้อยู่เรื่อยๆ เรามาดูเทคนิคการใช้ เกลียวปล่อยสแตนเลส ที่ถูกต้องกันดีกว่า
เทคนิคการใช้เกลียวปล่อยสแตนเลส
การเจาะนำ คือการเจาะให้ขนาดรูเจาะ เล็กกว่าหรือเท่ากับขนาดโคนของเกลียวสำหรับงานสแตนเลส แต่ถ้าเป็นงานไม้เนื้ออ่อน เหนียว ไม่จำเป็นต้องเจาะรูนำ แต่จะนิยมเจาะรูนำสำหรับไม้เนื้อแข็งเพราะหากไม่เจาะรูนำ เกลียวปล่อยอาจจะทำให้ไม้บวมหรือแตกได้
การเจาะรูผ่าน เจาะรูนำงานชิ้นแรกและเจาะรูผ่านไปจนถึงงานชิ้นที่สอง แต่จะต้องเจาะรูโดยใช้ดอกสว่านที่มีขนาดใหญ่กว่าเกลียวปล่อย ตัวอย่างเช่น เราต้องการจะใช้เกลียวปล่อยสแตนเลสขนาด 3.8 มม. เราจะต้องใช้ดอกเจาะผ่านที่ใหญ่ประมาณ 4 มม. เพื่อที่จะให้งานชิ้นแรกใหญ่กว่าตัวเกลียวเล็กน้อย เพื่อให้เกลียวได้มีโอกาสดึงวัสดุชิ้นที่ 2 เข้าด้วยกัน การเจาะรูผ่าน นิยมเจาะชิ้นงานที่อยู่ด้านบนของการเจาะยึด เพื่อให้เป็นตัวฟรีของการดูดของเกลียวปล่อย
แต่หากเราต้องการที่จะเจาะรูผ่านที่เล็กกว่าขนาดเกลียว รูจะได้คับๆแน่นๆนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ การเจาะรูให้เท่ากันแบบคับๆ ทั้งสองชิ้นงานที่ต้องการจะยึดติดกัน แล้วบีบงานให้สนิทเข้าหากัน หลังจากนั้นขันเกลียวปล่อยตามหลัง ภาพรวมออกมามันจะดูสนิทดี แต่แท้ที่จริงแล้วงานทั้ง 2 ชิ้นนั้น จะไม่ได้ถูกเกลียวปล่อยยึดไว้เลย และไม่ได้มีการดูดเข้าหากันแต่อย่างใด มีโอกาสที่ทั้งสองชิ้นงานจะหลุดออกจากกันได้ ถึงแม้จะขันเกลียวแน่นแล้ว จะไม่รู้สึกถึงความแน่นหนาของชิ้นงานเลย และหากจะอัดกาวไปด้วยก็ยังไม่สามรถทำให้สนิทได้ แต่หากเราเปลี่ยนไปใช้วิธีแรกที่แนะนำนั้น จะได้เห็นได้ชัดเลยว่า วัสดุทั้งสองชิ้นจะยึดชิดและสนิทกันมากขึ้น การใช้งานให้ถูกวิธีนั้นเป็นเรื่องจำเป็นมากๆของช่างฝีมือ หรือบุคลทั่วไปก็อาจจะต้องทำให้ถูกวิธี เพื่อชิ้นงานที่ได้คุณภาพ
เกลียวปล่อยสแตนเลส ประเภทและการใช้งาน
ชนิดของเกลียว
- เกลียวหยาบ
เกลียวปล่อยสแตนเลสแบบหยาบ มีฟันเกลียวที่แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระชากได้เป็นอย่างดี ฟันเกลียวไม่ลื่นหลุดง่าย นิยมใช้เกลียวหยาบในวงการงานประกอบรถยนต์ อุปกรณ์เครื่องยนต์ หากเป็นงานหนักๆ ที่ต้องการความแข็งแรงของชิ้นงานมาก ควรเลือกเกลียวหยาบ เพราะทนต่อแรงกระชากได้ดีกว่าเกลียวแบบละเอียด
- เกลียวละเอียด
เกลียวปล่อยสแตนเลสแบบละเอียดจะมีฟันเกลียวที่เล็ก ฟันละเอียด มุมเกลียวเรียวเล็ก สามารถหมุนให้ชิดเข้ากับหัวเกลียวได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำ ไม่เหมาะกับงานที่ใช้แรงกระชากมาก แต่หากใช้งานกับงานประเภทสลักเกลียวจะทำงานได้ดีกว่าเกลียวหยาบ
6 เกลียวปล่อยแสตนเลส
- เกลียวเมตริก (เกลียวมิล)
เกลียวเมตริกเป็นเกลียวสามเหลี่ยม มียอดแหลมและมีมุมยอดเกลียว 60 องศา เกลียวเมตริกมีทั้งแบบเมตริกธรรมดา และเกลียวเมตริก ISO มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและนิยมที่สุดสำหรับงานช่าง สามารถใช้ได้กับงานเกือบทุกประเภท
- เกลียววิตเวอร์ต (เกลียวแป๊บ)
เกลียวสามเหลี่ยมระบบอังกฤษ เกลียววิตเวอตมีมีมุมมนโค้งทั้งยอดเกลียวและโคนเกลียว มุมยอดเกลียวรวมกันได้ 55 องศา มีทั้งแบบหยาบ (BSW) และแบบละเอียด (BSF) นิยมใช้ในงานติดตั้งประปาและสุขภัณฑ์
- เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมู (เกลียวแม่แรง)
เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูเมตริก เกลียวนี้มีแรงเสียดทานที่ผิวน้อยกว่าเกลียวเมตริก มีมุมยอดเกลียว 30 องศา มีความแข็งแรงกว่าเกลียวสามเหลี่ยมอย่าง เกลียวเมตริกและเกลียววิตเวอร์ต เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูนิยมนำมาใช้ในการส่งถ่ายกำลัง นำเลื่อนชิ้นส่วน
- เกลียวฟันเลื่อย
เกลียวที่ไม่สมมาตรกัน มีมุมยอดเกลียว 33 องศา เกลียวประเภทนี้จะมีการใช้งานที่ปลอดภัยกว่าเกลียวอื่นๆ เพราะถูกออกแบบมาให้เคลื่อนที่ได้ทิศทางเดียว มีการใช้กับงานที่ด้านข้างเกลียวด้านหนึ่งให้รับภาระสูงกว่าเกลียวที่ขับเคลื่อน เช่น ปลอกบีบหัวจับดอกสว่าน หรืออุปกรณ์ในการบด
- เกลียวกลม
เกลียวกลมมีมุมยอดเกลียว 30 องศา เป็นเกลียวในระบบอังกฤษ ยอดเกลียวมีลักษณะมนโค้ง เหมาะสำหรับงานโลหะ งานสแตนเลส งานที่ต้องรับแรงกดทับ แรงกระชาก แรงกระแทก หรืองานที่เกี่ยวข้องกับความร้อนมากๆ
รีวิวโดย : Apn hardware จำหน่าย อุปกรณ์สลักภัณฑ์ ปลีก-ส่ง