ลักษณะเกลียวและชนิดของเกลียวปล่อยสแตนเลส

เกลียวปล่อยสแตนเลส หรือ สกรูเกลียวปล่อย เป็นอุปกรณ์งานช่างใช้สำหรับเจาะยึดวัสดุชนิดต่างๆ ที่ต้องการให้งานสองชิ้นยึดติดกันอย่างแน่นหนา อย่างเช่น งานไม้ งานพลาสติก หรืองานโลหะ งานสแตนเลส และในปัจจุบันซึ่งช่างอาชีพทุกคนก็คงทราบกันดีว่า เกลียวปล่อยนั้นมีลักษณะเกลียวที่แตกต่างกันออกไปและมีชนิดที่ต่างกัน ร่วมถึงการใช้งานของตัวมันเอง วันนี้เรามาดูลักษณะเกลียวและการใช้งานกัน เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง

ชนิดของเกลียวแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

 เกลียวหยาบ  เกลียวปล่อยแบบหยาบ ส่วนมากวงการยานยนต์ นิยมใช้เกลียวหยาบในงานประกอบ เช่นในเครื่องยนต์ เพราะเกลียวหยาบมีฟันเกลียวที่แข็งแรงกว่า ทนแรงกระชากได้ดีกว่า เกลียวปล่อยสแตนเลส

 เกลียวละเอียด เป็นเกลียวที่ให้ความแข็งแรงในการยึดเกาะไม่คลายตัวของเกลียว เหมาะกับการใช้งานในเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือนไม่มีแรงดึงมาก

ลักษณะของเกลียวและการใช้งาน

  1.     เกลียวเมตริก  ( เกลียวมิล )

เกลียวเมตริกเป็นเกลียวที่มียอดแหลมและมีมุมยอดเกลียว 60 องศา แบ่งเป็นเกลียวหยาบและเกลียวละเอียด ได้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับงานช่าง และสามรถใช้ได้กับงานเกือบทุกประเภท

  1.   เกลียววิตเวอต  ( เกลียวแป๊บ )

เป็นเกลียวที่มีมาตรฐานในระบบอังกฤษ เกลียววิตเวอตมีมุมยอดเกลียว 55 องศา นิยมใช้ในงานติดตั้งประปาและสุขภัณฑ์  

  1.   เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมู ( เกลียวแม่แรง )

เกลียวนี้มีแรงเสียดทานที่ผิวน้อยกว่าเกลียวเมตริก มีมุมยอดเกลียว 30 องศา เกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูจึงนำมาใช้ในการส่งถ่ายกำลังนำเลื่อนชิ้นส่วน

  1.   เกลียวฟันเลื่อย

เป็นเกลียวที่ไม่สมมาตรกัน มีมุมยอดเกลียว 33 องศา ใช้กับงานที่ด้านข้างเกลียวด้านหนึ่ง รับภาระสูงกว่าเกลียวที่ขับเคลื่อน เช่น ปลอกบีบหัวจับดอกสว่าน หรืออุปกรณ์ในการบด

  1.   เกลียวกลม

เกลียวกลมมีมุมยอดเกลียว 30 องศา ยอดเกลียวมีลักษณะมนโค้ง ใช้สำหรับงานโลหะ สแตนเลส หรืองานที่ต้องรับแรงกดหรือแรงกระแทก และงานที่รับความร้อน และมีความสกปรกมาก

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top